เสริมจมูกให้สวยพุ่งเป็นธรรมชาติด้วย “เทคนิค Semi-Open”
ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะตัดสินใจเสริมจมูก ต่างผ่านการศึกษาหาความรู้มากมายหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวก่อนทำจมูก การดูแลหลังทำจมูก ข้อควรระวัง รวมถึงเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรทราบ หากอยากได้ทรงจมูกที่สวยถูกใจ และปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
โครงสร้างและปัญหาจมูกที่ต่างกัน ย่อมใช้เทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกแตกต่างกัน โดยปกติ เทคนิคผ่าตัดเสริมจมูกจะมีอยู่ 2 เทคนิค คือ การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด และการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty)
การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด เป็นเทคนิคการผ่าตัดทำจมูกโดยเปิดแผลในรูจมูกเพียงข้างเดียว เหมาะสำหรับคนที่ไม่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างจมูกมาก หรือคนที่ต้องการแก้จมูกเพียงเล็กน้อย เพราะเทคนิคนี้จะมีข้อจำกัด คือ ไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด
ข้อดี
- รอยแผลมีขนาดเล็ก มองไม่เห็นจากภายนอก
- ใช้เวลาพักพื้นไม่นาน บวมช้ำน้อย จมูกเข้าที่ไว
ข้อเสีย
- ไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อนได้
- เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาจมูกเบี้ยวหรือเอียง
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)
การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด เป็นเทคนิคการผ่าตัดทำจมูกโดยเปิดแผลที่รูจมูกทั้ง 2 ฝั่ง และบริเวณฐานจมูกซึ่งจะทำให้เกิดรอยแผลด้านนอกจมูก เทคนิคการผ่าตัดนี้จะทำให้เห็นโครงสร้างภายในจมูกชัดเจนกว่าการเสริมจมูกแบบปิด การเสริมจมูกแบบเปิดจึงเหมาะสำหรับคนที่โครงสร้างจมูกมีปัญหา เช่น จมูกมีฮัมพ์สูง แกนจมูกเบี้ยว เนื้อจมูกน้อย ฯลฯ
ข้อดี
- แก้ปัญหาและตัดแต่งจมูกได้อย่างตรงจุด
- ง่ายต่อการขูดสารเหลวและปรับโครงสร้าง
ข้อเสีย
- รอยแผลเห็นชัดกว่าการผ่าตัดจมูกแบบปิด
- ใช้เวลาพักฟื้นนาน เกิดอาการบวมช้ำเยอะกว่า
นอกจากเทคนิคข้างต้นแล้ว ปัจจุบัน ยังมีเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่พูดถึง และเป็นที่นิยม คือ เทคนิคผ่าตัดเสริมจมูกแบบ Semi-Open
เทคนิค Semi-Open คืออะไร?
การผ่าตัดเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-Open Rhinoplasty) เป็นเทคนิคการผ่าตัดทำจมูกที่คล้ายคลึงกับการทำจมูกแบบปิด ต่างกันตรงที่การผ่าตัดเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด หรือ Semi-Open เป็นการเปิดแผลทั้ง 2 ข้าง โดยแผลผ่าตัดจะเป็นแผลในรูจมูกทั้งหมด ทำให้ดูแลพักฟื้นร่างกายหลังผ่าตัดง่าย ใช้เวลาไม่นาน และบวมช้ำน้อย
การเสริมจมูกแบบ Semi-Open จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่อยากทำจมูก แต่ไม่อยากให้เห็นรอยแผลและใช้เวลาพักฟื้นนานเหมือนการเสริมจมูกแบบเปิด และไม่อยากเพิ่มโอกาสเสี่ยงจมูกเบี้ยวหรือเอียงเหมือนการเสริมจมูกแบบปิด เพราะการทำจมูกด้วยเทคนิค Semi-Open มีข้อดีหลายอย่าง
ข้อดีของการผ่าตัดเสริมจมูกแบบ Semi-Open
- ช่วยให้วางแนวซิลิโคนได้อย่างแม่นยำ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจมูกเบี้ยว เอียงหรือทะลุ
- ลดปัญหาขนาดรูจมูกไม่เท่ากันจากการเย็บ เนื่องจากเป็นการเปิดแผลในทั้ง 2 ข้าง
- สามารถเย็บอินเตอร์โดม ตกแต่งปลายจมูกให้พุ่ง เชิด เป็นทรงสวยได้
- ใช้เวลาในการผ่าตัดและเวลาพักฟื้นไม่นาน อาการบวมช้ำน้อย
การเสริมจมูกด้วยเทคนิค Semi-Open เหมาะกับใคร?
การทำจมูกแบบ Semi-Open เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการผ่าตัด อยากทำจมูกทรงสโลปปลายพุ่ง และต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างจมูกตั้งแต่ระดับน้อยจนถึงปานกลาง ดังนั้น เทคนิค Semi-Open จึงไม่เหมาะกับกรณีที่จำเป็นต้องขูดสารเหลว หรือต้องการปรับโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อนใหม่ ในกรณีนี้ ควรใช้เทคนิคเสริมจมูกแบบเปิดจะครอบคลุมกว่า
แม้ว่าการเสริมจมูกเทคนิค Semi-Open จะไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างของจมูกได้เท่ากับการเสริมจมูกแบบเปิด แต่การทำจมูกแบบ Semi-Open ก็สามารถแก้ปัญหาได้ดีและแม่นยำกว่าการเสริมจมูกแบบปิดมากไปกว่านั้น ยังถือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด เพราะในการผ่าตัดจะใช้แค่การฉีดยาชาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ ที่ เฌอมารินทร์ คลินิก คุณหมอนิภัทรดูแลทุกเคสด้วยตัวเอง รวมถึงใช้เทคนิค Semi-Open ในการเสริมจมูกให้กับทุกเคส มั่นใจได้ว่าจมูกจะออกมาสโลปเป็นทรงสวย ดูเป็นธรรมชาติ ในราคาที่เหมาะสม
สนใจสอบถามประเมินรูปหน้าหรือจองคิวได้ที่
Facebook: Shermarinclinic
Line: @Shermarinclinic
โทร. 082-5026250 (สาขาพิษณุโลก), 096-6872027 (สาขาขอนแก่น)