เสริมคางแผลใน VS เสริมคางแผลนอก แบบไหนที่ใช่?
การเสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขโครงสร้างคางที่เป็นปัญหา เช่น คางตัด คางสั้น คางบุ๋ม อีกทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น
การเสริมคางด้วยซิลิโคนแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์คาง คือ ได้รูปทรงคางที่สวยและคงอยู่ได้นานกว่า โดยเทคนิคการเสริมคางด้วยซิลิโคนนี้ แบ่งการเปิดแผลผ่าตัดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การเสริมคางแผลใน และการเสริมคางแผลนอก
เสริมคางแผลใน
การเสริมคางแบบแผลในช่องปาก เป็นการเสริมคางแบบเปิดแผลบริเวณระหว่างเหงือกด้านในกับริมฝีปาก หลังจากนั้นทำการวางซิลิโคนในตำแหน่งที่ต้องการ แล้วจึงเย็บปิดแผลภายในช่องปาก
ข้อดีของการเสริมคางแผลใน
- ลดโอกาสการเกิดแผลเป็นที่เห็นได้ชัดจากการผ่าตัด
- เหมาะกับคนที่มีโอกาสแผลเป็นนูนง่ายหรือคีลอยด์
ข้อควรระวังของการเสริมคางแผลใน
- ต้องมีการดูแลหลังเสริมคางอย่างระวังเป็นพิเศษ
- มีโอกาสเสี่ยงแผลติดเชื้อจากน้ำลายหรือแบคทีเรียในช่องปาก
- ต้องระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารในช่วงแรก เพราะอาจเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้
เสริมคางแผลนอก
การเสริมคางแบบแผลนอกช่องปาก เป็นการเสริมคางแบบเปิดแผลบริเวณใต้คาง โดยมีความยาวแผลประมาณ 2 เซนติเมตร เมื่อทำการเหลาปรับแต่งซิลิโคนให้เข้ากับรูปหน้าแล้ว จึงวางซิลิโคนในตำแหน่งที่ต้องการ พร้อมเย็บปิดแผลบริเวณใต้คาง
ข้อดีของการเสริมคางแผลนอก
- ปรับแก้รูปทรงคางได้ง่าย และวางซิลิโคนได้แม่นยำมากกว่า
- การดูแลรักษาแผลหลังเสริมคางไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า
- ลดโอกาสการติดเชื้อ และแผลแห้งไวกว่า
- ไม่กระทบเรื่องการรับประทานอาหารมากนัก
ข้อควรระวังของการเสริมคางแผลนอก
- มีโอกาสเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นมากกว่าแบบแผลใน
- ต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้
เทคนิคการเสริมคางแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบแผลในหรือแผลนอก ย่อมมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ก่อนจะตัดสินใจทำคาง ควรเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาเทคนิคผ่าตัดที่เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน
เทคนิคเสริมคาง เฉพาะที่ “เฌอมารินทร์ คลินิก”
- เสริมคางด้วยซิลิโคน USA แบบไร้รอยต่อ ทำให้ใบหน้าของลูกค้าเข้ารูปสวย
- มีสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อปรับรูปหน้าให้ยาวสวยมีมิติขึ้น
สนใจสอบถามประเมินรูปหน้าหรือจองคิวได้ที่
Facebook: Shermarinclinic
Line: @Shermarinclinic
โทร. 082-5026250 (สาขาพิษณุโลก), 096-6872027 (สาขาขอนแก่น)